การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ของ การเสียชีวิตของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์

รถเมอร์เซเดสเบนซ์ W140 S-Class, คล้ายกับคันที่เกิดเหตุ

ในตอนแรก สื่อมวลชนระบุว่า รถเบนซ์ได้พุ่งชนเสาตอม่อของอุโมงค์ด้วยความเร็ว 190 กม/ชม. เพราะเข็มไมล์บนแผงหน้าปัดค้างอยู่ที่ตำแหน่งนี้ แต่ต่อมาได้แก้ข่าวว่าความเร็วของรถอยู่ที่ประมาณ 95-110 กม./ชม. เท่านั้น และเครื่องวัดความเร็วบนแผงหน้าปัดที่ติดตั้งมากับรถเมอร์เซเดสเบนซ์ W140 S-Class เป็นหน้าปัดบอกความเร็วแบบดิจิตอลและไม่สามารถอ่านค่าความเร็วได้จากหน้าจอโดยตรงหลังเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะมาด้วยความเร็วใดก็ตาม รถคันดังกล่าวน่าจะขับมาด้วยความเร็วเกินกว่า 50 กม/ชมอย่าแน่นอน ซึ่งความเร็ว 50 ก./ชมนี้เป็นความเร็วที่กำหนดไว้สำหรับถนนลงอุโมงค์ในฝรั่งเศส

ในปี 2542 หน่วยสืบสวนฝรั่งเศสตั้งข้อสงสัยว่า รถเมอร์เซเดสเบนซ์อาจเฉี่ยวชนกับรถยนต์อีกคันหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถเฟียต อูโนสีขาว ในอุโมงค์ก่อนเกิดการชนครั้งรุนแรง แต่ก็ไม่มีผู้ใดออกมายืนยันว่าเป็นเจ้าของรถเฟียตลึกลับนี้ และไม่สามารถตรวจสอบว่ารถเฟียตอูโนคันนี้มีอยู่จริงหรือไม่ ในที่สุดหน่วยสืบสวนใช้เวลานานกว่า 18 เดือนในการสรุปคดีอุบัติเหตุที่พรากชีวิตไดอานานั้นมีสาเหตุมาจากคนขับที่มีอาการมึนเมาและไม่สามารถควบคุมรถยนต์ที่ขับมาด้วยความเร็วสูงได้ และทำให้โศกนาฏกรรมขึ้นในคืนนั้น[15]

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2546 หนังสือพิมพ์เดลิมิเรอร์ในอังกฤษ ตีพิมพ์จดหมายส่วนพระองค์ของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่เขียนไว้ 10 เดือนก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต ซึ่งระบุว่า มีแผนการลอบสังหารเธอ โดยการทำให้ระบบเบรกรถยนต์ทำงานขัดข้อง ซึ่งส่วนหนึ่งของจดหมายฉบับนั้นที่เขียนด้วยลายมือของเธอเขียนไว้ว่า "ชีวิตของฉันตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายมากที่สุด สามีของฉันกำลังวางแผนที่จะทำให้รถยนต์ของฉันเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ระบบเบรกทำงานผิดผลาดและทำให้ฉันได้รับบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ เพื่อกำจัดฉันให้พ้นทางและชาลส์จะได้เสกสมรสใหม่อีกครั้ง" [18][19]

ในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2547 6 ปีหลังการเสียชีวิต คดีเสียชีวิตของไดอานาและการเสียชีวิตของโดดี อัล ฟาเยด ถูกรื้อฟื้นมาไต่สวนใหม่อีกครั้งที่กรุงลอนดอน ภายใต้การนำขอวไมเคิล เบอร์เจส เจ้าหน้าที่ไต่สวนคดีมรณกรรมของสมเด็จพระราชินีและคณะพิจารณาคดีได้ขอให้เซอร์จอห์น สตีเว่นส์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากหน่วยตำรวจนครบาลลอนดอน เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยว่าไดอานาไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และทีมโอเปอเรชั่นพาเก็ตได้ทำการสรุปผลการสืบสวนลงในผลรายงานในเดือนธันวาคม 2548

ต่อมาในปีพ.ศ. 2547 สถานีโทรทัศน์ CBS ในสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ภาพถ่ายรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ในอุโมงค์ปองต์ เดอ ลัลมา ที่หน้ารถพังยับเยินรวมทั้งภาพของไดอานาที่ไม่มีเลือดไหลและบาดแผลภายนอก ในภาพไดอานาก้มลงบนพื้นรถยนต์ และประตูรถยนต์ด้านขวาเปิดอ้าอยู่[20] การนำเสนอภาพนี้สร้างความไม่พอใจไปทั่วเกาะอังกฤษ เพราะเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเธอมากเกินไป และทำให้นายโมฮัมหมัด อัล ฟาเยดฟ้องร้องคดีนี้กับสถานีโทรทัศน์

ในเดือนมกราคม 2548 ลอร์ดสตีเว่นส์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ GMTV ว่าพยานหลักฐานในคดีนี้ซับซ้อนกว่าที่คาดไว้ตั้งแต่แรก

หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ ฉบับวันที่ 29 มกราคม 2548 ได้นำเสนอข่าวการออกมาปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ของหน่วย MI-6 ในประเด็นที่ว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ในกรุงปารีสในวันที่ไดอานาประสบอุบัติเหตุ และเจ้าหน้าที่จากองค์การลับนี้ได้สลับผลการตรวจเลือดของคนขับรถด้วยตัวอย่างจากผลตรวจอื่น (ซึ่งไม่มีหลักฐานยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่) [21] [22]

ในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 นิตยสารรายสัปดาห์ของอิตาลี Chi ตีพิมพ์ภาพถ่ายของไดอานาในนาทีสุดท้ายของชีวิต แม้ว่าจะได้มีการสั่งห้ามมิให้เผยแพร่ภาพชุดดังกล่าว ภาพชุดนี้ถูกถ่ายหลังจากเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นาน และภาพแสดงให้เห็นไดอานาที่ทรุดตัวลงที่เบาะหลัง ขณะที่หน่วยกู้ชีพได้พยายามสวมเครื่องช่วยหายใจให้เธอ และภาพนี้ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสาร, หนังสือพิมพ์ภาษาอิตาลีและสเปนหลายสำนักพิมพ์

บรรณาธิการนิตยสาร Chi ออกมากล่าวปกป้องการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า ได้ยอมให้เผยแพร่ภาพของไดอานาเพราะได้มาจากสำนวนคดีของทางการฝรั่งเศส และแก้ตัวง่าย ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไม่เคยมีใครเห็นภาพนี้มาก่อนและไม่ได้คิดว่าภาพพวกนี้จะเป็นการหมิ่นเกียรติของไดอานาผู้ล่วงลับแต่อย่างใด [23]

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: การเสียชีวิตของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ http://www.ctv.ca/servlet/ArticleNews/story/CTVNew... http://www.channel4.com/culture/microsites/D/diana... http://www.conspiracyplanet.com/channel.cfm?Channe... http://www.coverups.com/diana/photos-2.htm http://findarticles.com/p/articles/mi_qn4158/is_19... http://www.people.com/people/article/0, http://www.time.com/time/daily/special/diana/timel... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11060002 http://www.theroyalist.net/content/view/372/2/ http://web.archive.org/web/20040913114236/http://w...